ทำไม โยโควิช แชมป์เมเจอร์น้อยกว่า นาดาล แต่ครองตำแหน่งเงินรางวัลสะสมสูงสุด ?

09-03-2022
2นาทีที่อ่าน

โนวัค โยโควิช ยอดนักเทนนิสชาวเซอร์เบีย มีเส้นทางอาชีพนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนที่สุด หลังกลายเป็นนักเทนนิสที่ทำเงินรางวัลสะสมตลอดอาชีพสูงสุด กว่า 5.8 พันล้านบาท แม้ว่าในปี 2022 เจ้าตัวจะพลาดการแข่งขันระดับแกรนด์สแลมถึง 2 รายการ และตลอดอาชีพนักเทนนิส “โนเล่” กวาดรายได้เข้ากระเป๋ารวมไปแล้วกว่า 8 พันล้านบาท 

เงินรางวัลสะสม ดัชนีชี้วัดความสำเร็จในฐานะนักกีฬาเทนนิส

โนวัค โยโควิช ยังคงเป็นนักกีฬาเทนนิสที่ทำเงินรางวัลตลอดอาชีพสูงสุด แม้ว้าแร็คเก็ตส์วัย 35 ปี จะพลาดลงแข่งขัน 2 เมเจอร์ใหญ่ของปี 2022 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลอดเส้นทางอาชีพนอกจากจะคว้าแชมป์มาได้หลายรายได้ (ความสามารถ) เขายังเป็นนักกีฬาที่มักทำผลงานทะลุเข้าสู่รอบลึกๆได้เสมอ (ความคงเส้นคงวา) รวมถึงเข้าร่วมการแข่งขันรายการสำคัญได้อยู่เสมอ (ดูแลสภาพร่างกาย)

ทั้งนี้ โยโควิช พลาดโอกาสร่วมศึกออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อช่วงมกราคม และ ศึก ยูเอส โอเพ่น หลังเจ้าตัวยังคงไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19

นอกจากนั้น รายการ เฟร้นช์ โอเพ่น "โนเล่" ก็จอดแค่รอบก่อนรองชนะเลิศหลังพ่ายให้กับ ราฟาเอล นาดาล คู่รักคู่แค้นชาวสเปน ก่อนที่นาดาลจะคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง

อย่างไรก็ตามการคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน ยังทำให้นักเทนนิสมือวางอันดับ 6 ของโลก ไม่วืดแชมป์เมเจอร์ ตลอดทั้งปี 2022 รวมทั้งยังเป็นแชมป์แกรนด์สแลมสมัยที่ 21 ของเจ้าตัวอีกด้วย พร้อมกับทำเงินสะสม จากรายการนี้อีก 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 91.4 ล้านบาท)

และเมื่อดูเส้นทางตลอดอาชีพของ "โนเล่" เขากวาดเงินรางวัลรวมไปแล้วกว่า 159 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 5.83 พันล้านบาท) ซึ่งมากกว่า ราฟาเอล นาดาล อยู่ 26 ล้านเหรียญ (ราว 953 ล้านบาท)

โดยถึงแม้ว่า "ราชาคอร์ตดิน" ที่เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์เมเจอร์สูงสุด 22 รายการ จะคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จก็ยังคงไล่ไม่ทันอยู่ดี

5 อันดับแรกของนักเทนนิสที่ทำเงินรางวัลสะสมสูงสุด

1. โนวัค โยโควิช 158,996,253 ล้านเหรียญ

2. ราฟาเอล นาดาล 131,383,446 ล้านเหรียญ

3. โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ 130,594,339 ล้านเหรียญ

4. เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ 94,606,355 ล้านเหรียญ

Scroll to Continue with Content

5. แอนดี้ มาร์รี่ย์ 62,989,926 ล้านเหรียญ

แบรนด์บุคคลที่ทรงพลัง

นอกเหนือจากรายได้บนคอร์ตการแข่งขัน โยโควิช ยังมีรายได้อื่นๆ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าผ่านแบรนด์บุคคล (Personal Branding) ซึ่งเกิดจากทั้งความสามารถ ผลงาน อัตลักษณ์ที่เด่นชัด ไลฟ์สไตล์ และ ฐานผู้ติดตามในสื่อโซเชียลมีเดีย

แม้ปี 2022 โยโควิช จะคว้าเงินรางวัลสะสมจากการแข่งขันเพิ่มเพียง 4.3 ล้านเหรียญ (ราว 157 ล้านบาท) แต่ตลอดอาชีพเขากวาดรายได้เข้ากระเป๋าไปแล้ว 220 ล้านเหรียญ (ราว 8.05 พันล้านบาท) อ้างอิงจาก Celebrity Net Worth 

โยโควิช มีรายได้ส่วนอื่นๆที่เพิ่มเติมจากการแข่งขันด้วยการเป็นพรีเซนเตอร์ ประกอบไปด้วย เปอโยต์ ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง และ ลาคอสท์ แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์ต่างจ่ายให้กับ ยอโควิช ระดับ 8 หลักต่อปี

นอกจากนั้นในปี 2021 เจ้าตัวยังประกาศเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ อูโบลท์ (Hublot) แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์

ขณะเดียวกันช่วงต้นปีที่ผ่านมา รอยเตอร์ ยังรายงานด้วยว่า โยโควิช ซื้อหุ้น QuantBioRes บริษัทเทคโลโนยีชีวภาพของเดนมาร์ก และเจ้าตัวก็ยังนำเงินลงทุนในมูลนิธิของตัวเอง ที่จะช่วยพัฒนาโครงการด้านการศึกษาของเด็ก ๆในประเทศเซอร์เบีย ซึ่งการทำ CSR หรือ มีความเคลื่อนไหวทางสังคมเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และขยายขอบเขตการมีฐานแฟนกีฬาให้กว้างขึ้นไปอีกด้วย

ท้ายที่สุดคือ พลังจากสื่อโซเชียลมีเดีย 

โยโควิช มีฐานผู้ติดตามบนอินสตาแกรม กว่า 11.3 ล้านคน แม้ว่าจะเป็นรอง ราฟาเอล นาดาล ที่มียอดฟอลโลว์ถึง 16 ล้านคน แต่ก็ทำให้เขาถูกจัดอยู่ในนักเทนนิสผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ระดับท็อปของโลก

โดยในทวิตเตอร์ “โนเล่” มีผู้ติดตามราวๆ 9.1 ล้านคน และ ในเฟซบุ๊ก อีก 10 ล้านคน

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ยอดผู้ติดตาม คือการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนๆ การนำเสนอเนื้อหาผ่านสื่อที่เหมือนเป็นการอัปเดทความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ หรือ แม้กระทั่งการมีความคิดสร้างสรรค์หรือมุมน่าสนใจที่สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ส่วนตัวได้เด่นชัด 

“เราอยู่ในยุคโลกเสมือนจริง อินเตอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ก และแพลทฟอร์มต่างๆมากมาย คือวิธีการสื่อสารกับคนอีกฟากนึงของโลกได้ดีที่สุด” โยโควิช ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองของเขาต่อสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งบ่อยครั้งเจ้าตัวลงมาเป็นผู้ดูแล สร้างสรรค์คอนเทนต์ และ เช็คข้อความหรือคอมเมนต์ด้วยตัวเอง